การต่อสู้ระหว่างประเทศของยุคสมัยนี้ไม่ได้เป็นการแข่งขันทางด้านอาวุธอย่างเดียวแล้ว ยังเป็นการแข่งขันทางด้านข้อมูลด้วย ใครมีข้อมูลมากกว่าคนนั้นก็อาจจะชนะไปได้เลย หนึ่งในคู่ขัดแย้งที่ต่อสู้กันมาตลอดหลากหลายรูปแบบมากก็คือ สหรัฐกับเกาหลีเหนือ ทั้งข่าวจริง ข่าวปลอมปล่อยออกมาให้วุ่นวายไปหมด หนึ่งในข่าวที่ดูแล้วแปลกมากก็คือ ข่าวการเสียชีวิตของ คิมจองนัม ชายคนนี้เป็นใคร สำคัญอย่างไร
คิมจองนัม เค้าเป็นใคร
คิมจองนัม ชายเกาหลีเหนือคนนี้อาจจะดูเหมือนชายเกาหลีทั่วไป หาดูได้ไม่ยาก ดูไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เป็นพิษเป็นภัยได้เลยแต่ประวัติของเค้าไม่ธรรมดา สื่อบอกกับเราว่า เค้าคือพี่ชายต่างมารดาของ นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ไม่เพียงแค่นั้นเค้ายังเชื่อกันว่า ชายคนนี้เป็นผู้กุมความลับ ข้อมูลสำคัญของเกาหลีเหนืออีกด้วย
ถูกฆ่าด้วยสารพิษ
เรื่องราวของชายคนนี้มาน่าสนใจตรงที่ว่า เค้าโดนฆ่าตาย ซึ่งการตายของเค้านั้นไม่ธรรมดา เป็นการตายที่เหมือนกับการฆาตรกรรมมากกว่า กล่าวคือ เค้าโดยป้ายยาสารพิษทำลายระบบประสาทชนิดหนึ่งในต่างประเทศ นั่นทำให้เค้าเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว เค้าโดนป้ายยาที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ของประเทศมาเลเซีย
การพบปะเจ้าหน้าที่ ซีไอเอ
นักข่าวหลายสำนักต่างเชื่อกันว่า คิม จองนัม พี่ชายต่างมารดาของ คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือนั้น เป็นชายที่เหมือนสายลับให้กับทางสหรัฐมาตลอดเวลา เค้ามักจะออกเดินทางไปพบปะเจ้าหน้าที่ซีไอเออยู่ตลอดเพื่อส่งต่อข้อมูลให้ โดยแหล่งนัดหมายจะเป็นประเทศอื่นอย่าง มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เป็นต้น รวมถึงการเสียชีวิตในครั้งนี้เชื่อกันว่า เค้ามาเพื่อพบเจ้าหน้าที่ซีไอเอบางคน เพื่อมอบข้อมูลลับให้ก่อนจะเสียชีวิตไป โดยทางซีไอเอก็ไม่ได้ออกมายืนยันเรื่องนี้ และ ไม่ได้ยืนยันว่า นายคิมจองนัมให้ข้อมูลอะไรแก่พวกเค้าด้วย
เค้ามีดีขนาดนั้นจริงเหรอ
ด้านหนึ่ง จากสายสัมพันธ์ นายคิมจองนัม น่าจะเป็นเครือญาติที่มีความใกล้ชิดกับ ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือได้เป็นอย่างดี พร้อมกับกุมความลับบางอย่างได้ แต่อีกด้านหนึ่งนักวิเคราะห์ก็มองว่า ชายคนนี้มีดีขนาดนั้นเลยเหรอ เหตุผลสนับสนุนแนวคิดนี้ก็คือ เค้าได้ออกมาใช้ชีวิตนอกประเทศเกาหลีเหนือได้สักพักแล้ว แถมยังไม่มีกลุ่มฐานการเมืองสนับสนุนอีกด้วย การที่จะบอกว่าเค้ามีอำนาจเข้าถึงข้อมูลสำคัญของเกาหลีเหนือดูจะเป็นเรื่องที่ไม่เข้ากันสักเท่าไร ทำให้มองว่า การออกมาโจมตี ป้ายสี นายคิมจองนัมในครั้งนี้ความจริงหวังผลทางการเมือง สาดโคลนภาพลักษณ์ที่เป็นลบให้กับทางเกาหลีเหนือมากกว่าจะเป็นเรื่องข้อมูลลับสุดยอดอะไรนั่น อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนว่าคิดเห็นเป็นอย่างไร